แอร์เบ ไลป์ซิก อาจพบจุดเปลี่ยนของฤดูกาลหลังกลับมาทำผลงานดีบนเวทีบุนเดสลีกาจนไม่แพ้ 7 เกมติดต่อกันและทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ของลีกเมืองเบียร์
แอร์เบ ไลป์ซิก กำลังฟื้นตัวจากการเริ่มต้นฤดูกาลที่ย่ำแย่สุดนับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นบุนเดสลีกาในปี 2016 หลังทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ด้วยผลงานไม่แพ้ใครในลีกตลอด 7 เกมที่ผ่านมาและไล่หลังจ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิค อยู่ 10 คะแนน
มันมีคำถามตามมาว่า เจสซี่ มาร์ช เฮดโค้ชคนปัจจุบันทำมันอย่างไร?
แวบแรกในความคิดของคุณอาจเป็นการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู หลังแนวรุกชาวฝรั่งเศสกำลังทำผลงานดีสุดในอาชีพ นับตั้งแต่ มาร์ช เข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ต่อจาก ยูเลียน นาเกลส์มันน์ อดีตกองหน้า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทำ 5 ประตูและ 3 แอสซิสต์จากการลงเล่น 11 เกมบนเวทีบุนเดสลีกา
เอ็นคุนคู ยังทำ 5 ประตูบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งรวมถึงการทำแฮตทริคในเกมพ่าย แมนฯซิตี้ 3-6 และทำอีกสองประตูในเกมพ่าย คลับ บรูช 1-2 และเสมอ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2-2
ทั้งนี้ทั้งนั้น มาร์ช สมควรได้รับเครดิตครั้งใหญ่ในการผลักดัน แอร์เบ ไลป์ซิก ขึ้นมาจากอันดับ 12 และอยู่เหนือโซนตกชั้นเพียงแต้มเดียวหลังผ่านเกมที่ 5 ของฤดูกาล และมีเพียงคะแนนเดียวจากการลงเล่น 4 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนเบรคให้โปรแกรมทีมชาติช่วงเดือนพฤศจิกายน
โค้ชชาวมะกันต้องรับมือกับการสานต่องานของ นาเกลส์มันน์ ที่นำ แอร์เบ ไลป์ซิก คว้ารองแชมป์บุนเดสลีกาและ เดเอฟเบ โพคาล ในฤดูกาล 2020-2021 โดยไม่ต้องพูดถึงการจากไปของ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ มิดฟิลด์กัปตันทีม และ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กองหลังชาวฝรั่งเศสที่ย้ายไปค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ที่่ผ่านมา งานของ มาร์ช จึงไม่ง่ายอย่างที่คิดในตอนแรก
มาร์ช เริ่มต้นการคุมทีมลงเล่นช่วงปรีซีซั่น ทำสถิติชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 อดีตเฮดโค้ช ซัลซ์บวร์ก และอดีตผู้ช่วยของ ราล์ฟ รังนิก ที่ แอร์เบ ไลป์ซิก เริ่มต้นสวยด้วยการนำทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ถลุง ซานด์เฮาเซ่น ทีมลีกาสอง 4-0 ในรายการ เดเอฟเบ โพคาล รอบแรก
ทว่าโค้ชวัย 48 ปี ประเดิมเวทีบุนเดสลีกาด้วยการพ่าย ไมนซ์ 0-1 ก่อนแก้ตัวด้วยการยิงสลุต สตุ๊ตการ์ท 4-0 ในเกมถัดมา
แต่ แอร์เบ ไลป์ซิก พ่ายแพ้ 3 เกมติดต่อ โวล์ฟสบวร์ก (0-1), บาเยิร์น มิวนิค (1-4) และ แมนฯซิตี้ (3-6) ก่อนจะเสมอ เอฟซี โคโลญจน์ 1-1 แม้ทีมของ มาร์ช จะฟื้นตัวกลับมาด้วยการกด แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 6-0 แต่พลิกพ่าย คลับ บรูช คาบ้าน 1-2
จากนั้น แอร์เบ ไลป์ซิก เปิดบ้านขย่ม โบคุ่ม 3-0 ทว่าพวกเขาสะดุด 2 เกมติดจากเกมเสมอ ไฟร์บวร์ก 1-1 และพ่าย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก 2-3
ก่อนทีมของ มาร์ช จะกลับมาทำผลงานดีอีกครั้งจนไม่แพ้จากการลงเล่นทุกรายการ 5 เกมหลังสุด พวกเขาไม่แพ้บนเวทีบุนเดสลีกาตลอด 7 เกมหลังและเก็บ 15 จาก 21 คะแนนและผ่านเข้ารอบ 16 ทีมของรายการ เดเอฟเบ โพคาล
6 จาก 7 เกมหลังสุดของ แอร์เบ ไลป์ซิก, มาร์ช ปรับทัพมาเล่นระบบ 3 เซนเตอร์ ยกเว้นเพียงเกมเสมอ ไฟร์บวร์ก 1-1 ระหว่างนั้นทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ชนะ 4 เกม ยิง 17 ประตูและเสีย 4 ประตู
‘เราลงทุนไปมากในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาและคาดหวังไว้มากกว่านี้ แต่ความยากลำบากมักจะเป็นโอกาสในการปรับปรุง’ มาร์ช กล่าวหลังเกมชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-1 ‘มันไม่ง่ายเลย ผมนอนอยู่บนเตียงทุกคืนและคิดถึงเกมต่อไป วันนี้สำคัญมากสำหรับเรา เรามีความมั่นใจมากและเล่นได้ดีในระดับบุคคล’
มาร์ช เลือก โมฮาเหม็ด ซีมาก็อง วัย 21 ลงเล่นกับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล วัย 19 ลงเล่นเซนเตอร์แทนที่ อูปาเมกาโน่ กับ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ก่อนเฮดโค้ชชาวมะกันจะเลือกใช้ นอร์ดี้ มูเกเล่ กองหลังชาวฝรั่งเศสลงเล่นเป็นปราการหลังคนที่สามในเกมกับทีมเสือเหลือง
ขณะที่ วิลลี่ ออร์บัน ยังคงลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในซีซั่นที่ 7 ของเขากับ แอร์เบ ไลป์ซิก ส่วน อามาดู ไฮดาร่า จะเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง โดยมี ไทเลอร์ อดัมส์, เควิน คัมเพิล หรือ คอนราด ไลเมอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรียสลับลงเล่นเคียงข้าง ไฮดาร่า
ด้าน โฆเซ่ อังเคล เอสโมรีส ตาเซนเด้ หรือ อังเคลินโญ่ อาจไม่ได้ทำสถิติดีเท่าฤดูกาลที่แล้วทั้งการทำประตูหรือแอสซิสต์ แต่ฟูลแบ็กชาวสเปนยังคงเป็นตัวเลือกแรกในแนวรับฝั่งซ้าย โดยมี เบนจามิน เฮนริชส์ เป็นช้อยส์แรกของอีกฝั่ง เขาตอบสนองในเชิงบวกหลังถูกเรียกร้องให้โฟกัสไปที่ฟุตบอลมากกว่าหมกมุ่นอยู่กับโซเชียลมีเดีย
แอร์เบ ไลป์ซิก มีปัญหาในการเล่นเกมป้องกันช่วงต้นฤดูกาล ก่อนมีการปรับแต่งมาเล่นในระบบที่เหมาะสม ทว่าพวกเขาก็เสียไปแล้ว 11 ประตูในซีซั่นนี้ แต่ทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ยังเล่นเกมรุกมีประสิทธิภาพ พวกเขายิงรวมกัน 23 ประตู เป็นอันดับ 4 ตามหลังเฉพาะ เลเวอร์คูเซ่น (24), ดอร์ทมุนด์ (28) และ บาเยิร์น มิวนิค (40) เท่านั้น
เมื่อพิจารณาถึงขุมกำลังแนวรุกของ แอร์เบ ไลป์ซิก ผลงานดังกล่าวจึงไม่น่าแปลกใจมากนัก
ช่วงที่ แอร์เบ ไลป์ซิก ไม่มี ดาเนียล โอลโม่ ที่บาดเจ็บกลายเป็นโอกาสของ เอ็นคุนคู ที่ก้าวขึ้นมาในฐานะมิดฟิลด์ตัวรุก ก่อนถูกปรับมาเล่นตำแหน่ง ‘ฟอลส์ไนน์’ ในเกมล่าสุดกับ ดอร์ทมุนด์
นับจนถึงตอนนี้มีเพียง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (14), เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (12), โธมัส มุลเลอร์ (12) และ อองโตนี่ โมแดสต์ (9) เท่านั้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำประตูมากกว่า เอ็นคุนคู (8)
ในช่วงเดือนมกราคมปี 2021 แอร์เบ ไลป์ซิก เซ็นสัญญากับ โดมินิค โซบอสซไล จาก ซัลซ์บวร์ก
ทว่ามิดฟิลด์ทีมชาติฮังการีเริ่มต้นอย่างล่าช้าเนื่องจากการบาดเจ็บ เขาทำ 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์จากการออกสตาร์ทบนเวทีบุนเดสลีกา 7 เกม เขายังทำอีก 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์จากการลงเล่นฐานะสำรอง 3 นัด
การออกสตาร์ท 3 จาก 4 เกมหลังสุดทำให้ โซบอสซไล ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคมด้วยผลงานที่โดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมทีมอย่าง เอมิล ฟอร์สเบิร์ก
อีกหนึ่งแนวรุกประสบการณ์ของ แอร์เบ ไลป์ซิก คือ ยูสเซฟ โพลเซ่น กองหน้าทีมชาติเดนมาร์กที่มาอยู่กับทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ตั้งแต่ปี 2013 หลังย้ายมาจาก ลิงก์บี้ ตั้งแต่ แอร์เบ ไลป์ซิก ยังอยู่ระดับดิวิชั่น 3
โพลเซ่น ทำ 4 ประตูจากการลงเล่น 6 เกมหลังสุดบนเวทีบุนเดสลีกา เขาสวมบทฮีโร่ในเกมล่าสุดที่ทำประตูชัยดับทีมเสือเหลือง 2-1 โพลเซ่น อาจไม่ใช่กองหน้าที่ทำผลงานร้อนแรงเหมือน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หรือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์
เขาทำผลงานดีสุดคือการยิง 15 ประตูในหนึ่งซีซั่น แต่ด้วยประสบการณ์และความแข็งแกร่งของกองหน้าชาวเดนส์มีส่วนเสริมทักษะของ เอ็นคุนคู และ โซบอสซไล
จากผลงานของ โพลเซ่น มีส่วนทำให้เขาเบียด อันเดร ซิลวา กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสที่ย้ายมาจาก แฟร้งค์เฟิร์ต ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาหลุดเป็นสำรอง แม้ว่ากองหน้าวัย 26 ปีจะฉายแววเด่นกับทีมอินทรีแดง-ดำด้วยการกระทุ้ง 28 ประตูในซีซั่นที่ผ่านมา แต่เขาเพิ่งคลำเป้าเจอเพียง 2 ครั้งในฐานะกองหน้าหมายเลข 9 ของ แอร์เบ ไลป์ซิก
มาร์ช เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า แอร์เบ ไลป์ซิก น่าจะมีขุมกำลังเชิงลึกแข็งแกร่งสุดของลีกด้วยผู้เล่นดาวรุ่งระดับแนวหน้าอย่าง ไบรอัน บร็อบบี้ย์, ไอไลช์ โมรีบา และ อูโก้ โนบัว รวมถึงผู้เล่นประสบการณ์ที่กำลังฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บอย่าง มาร์เซล ฮาลชเตนเบิร์ก กับ ลูคัส คลอสเตอร์มันน์
‘พวกเรามีทีมที่มีคุณภาพเชิงลึกมาก ซึ่งช่วยให้เราสามารถเล่นฟุตบอลที่เข้มข้นได้’ มาร์ช กล่าว หลังตอบสนองต่อการทำประตูตีเสมอของ มาร์โค รอยส์ ด้วยการปรับมาใช้แนวรับ 4 คน ด้วยการส่ง เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ลงเล่นแทน เบนจามิน เฮนริชส์
‘วิธีหนึ่งในการทำสิ่งต่างๆคือการออกไปกับทีมเดียวกันเสมอ เหมือน บาเยิร์น แต่เราจะใช้ประโยชน์จากคุณภาพเชิงลึกของเราในการหมุนเวียนนักเตะลงสนาม’ เฮดโค้ชชาวมะกันกล่าว
หลังผ่านพ้นช่วงเบรคทีมชาติเดือนพฤศจิกายนนี้ยังคงต้องจับตาดูว่า แอร์เบ ไลป์ซิก สามารถพลิกสถานการณ์บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกได้หรือไม่ แม้ว่าพวกเขาจะหมดโอกาสลุ้นเข้ารอบน็อกเอาท์แล้วก็ตาม แต่ทีมของ มาร์ช ยังมีโอกาสแย่งอันดับ 3 กับ คลับ บรูช เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นรายการยูโรปาลีกต่อไป
คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล