UFABETWINS ตะลุยขวากหนามในแบบ “เจมี่ วาร์ดี้”

สำหรับเจมี่ วาร์ดี้ นี่ถือเป็นนักเตะ ที่สร้างตำนานเอาไว้กับสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้

ตั้งแต่การย้ายออกจาก ฟลีทวูด ทาวน์ มาเล่นในถิ่น “คิงส์ เพาเวอร์ สเตเดี้ยม” ในฤดูกาล 2012-13 ในสนนราคา 1 ล้านปอนด์ สร้างสถิติเป็นนักเตะจากระดับนอกลีกที่แพงสุดในประวัติศาสตร์ 

ตลอด 9 ฤดูกาลเต็ม กับเลสเตอร์ ซิตี้ วาร์ดี้ สามารถฝากผลงาน เอาไว้อย่างมากมาย นอกจากการไล่ยิงประตู อย่างถล่มทลาย จนเคยคว้า รองเท้าทองคำแล้ว เขายังวิ่งแบบไม่มีหมด เพื่อคอยช่วยเหลือทีม ตั้งแต่นาทีแรก ยันนาทีสุดท้ายอีกด้วย  

วาร์ดี้ ผ่านการพาเลสเตอร์ ซิตี้ เลื่อนชั้นจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ จนสามารถ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ราวกับเทพนิยาย นอกจากนี้ เขายังเป็นส่วนสำคัญ ในการพาพลพรรค “จิ้งจอกสยาม” ผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ ของสโมสร  

ขณะที่สถานการณ์ ในพรีเมียร์ลีก ปัจจุบัน เขาก็พาเลสเตอร์ ซิตี้ ลุ้นพื้นที่ไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จนถึงนัดสุดท้าย นี่คือความ ยอดเยี่ยมของ ยอดดาวยิงวัย 34 ปี ที่ครั้งหนึ่งเคยมีความคิดว่า ตัวเองดีไม่พอ ที่จะเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยซ้ำ 

ช่วงนี้ เราลองไปย้อนความทรงจำ ในเรื่องราวนี้กัน

ผมคิดว่าตัวเองดีไม่พอกับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยซ้ำ

วาร์ดี้ เล่าย้อนความทรงจำ หลังย้ายออกจาก ฟลีทวูด ทาวน์ ทีมระดับนอกลีก มาร่วมทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในช่วงปี 2012 ซึ่งการข้ามจากฟุตบอลระดับ รากหญ้า สู่การแข่งขัน ที่มีมาตรฐานสูงกว่า แบบฉับพลัน ทำให้เขาต้องเผชิญหน้า กับแบบทดสอบครั้งสำคัญ นำมาซึ่งความกดดัน อย่างมหาศาล

วาร์ดี้ กล่าวต่อไปว่า ก่อนจะย้ายมาเล่น กับเลสเตอร์ ซิตี้ เขาต้องตัดสินใจ เหมือนกัน เพราะมีทีมอื่น ยื่นข้อเสนอ เข้ามาด้วย ผลสุดท้าย โชคชะตาทำให้เขามาจบกับทีมนี้ “ก่อนหน้านั้น ข้อเสนอจากเลสเตอร์ ซิตี้คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และปีเตอร์โบโร่ ยื่นเข้ามา ผลสุดท้าย ผมตัดสินใจ ย้ายมาร่วมทีมเลสเตอร์ ซิตี้ 

อดีตดาวเตะ ทีมชาติอังกฤษ เปิดเผยว่า ส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เขาปรับตัว ลำบากมาก นั่นคือมาตรฐาน การเล่นของเดอะ แชมเปี้ยนชิพ มีความแตกต่าง กับนอกลีกอย่างสิ้นเชิง ทั้งในแง่ของ แท็คติกการเล่น และศักยภาพ ของคู่แข่ง ที่ละเอียด และยากกว่าที่เคยเจอ มาอย่างมหาศาล

เมื่อคุณย้ายมาเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ กองหลังมีการอ่านเกม และยืนตำแหน่งดี กว่านอกลีกมากเลย กองหลังที่นั่นไม่ได้เชื่องช้า เหมือนที่คุณคิด ผมตระหนักแล้วว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน สิ่งที่ผมเคยทำได้ กับฟลีทวูด ทาวน์ ใช้ไม่ได้ผลเลย กับการเล่นระดับนี้ 

จากสถานการ์ณ์เหล่านั้น วาร์ดี้ ยอมรับว่า เขาเกือบถอดใจ แล้วเหมือนกัน พร้อมกับความคิด ที่อยากจะยอมแพ้ แล่นเข้ามาในหัว เขาอยากซมซาน กลับไปเล่นสโมสรเดิมอย่าง ฟลีทวูด ทาวน์ สถานที่ ที่เขามีความสุข ในการลงสนามมากกว่า และไม่ต้องมารับความเปลี่ยนแปลง อะไรมากมายนัก

อย่างไรก็ตาม การที่วาร์ดี้ มีโอกาสเปิดอก พูดคุยกับกุนซือ และสตาฟโค้ช ทำให้เขามีความคิด ที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับ มีความมั่นใจ และความกล้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับการผ่านพ้น ช่วงเวลาที่ท้าทายใน เส้นทางการค้าแข้ง

วาร์ดี้ บอกถึงจุดเปลี่ยนว่า “ผมมีโอกาสเข้าไปพูดคุย กับผู้จัดการทีมในเวลานั้น อย่างไนเจล เพียร์สัน พร้อมกับผู้ช่วยอย่างสตีฟ วอล์ช และเคร็ก เช็คสเปียร์ ผมบอกพวกเขาไปตามตรงว่า ผมคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ ในการเล่นลีกระดับนี้

ผมถึงกับขอร้องว่า โปรดปล่อยผม กลับไปฟลีทวูด ทาวน์  แบบยืมตัวก็ได้ ทว่าโค้ชทั้งหมดกลับตอบมาว่า –เราต่างเชื่อมั่นในตัวนาย เราดึงตัวนายมาร่วมทีม ก็เพราะเรามีความมั่นใจในตัวนาย– นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการได้ยินจริงๆ

วาร์ดี้ ทิ้งท้ายว่า “ฤดูกาลที่ 2 เวียนเข้ามา ผมมีความมั่นใจมากขึ้น ผู้จัดการทีมส่งผมลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมแรกของฤดูกาลกับมิดเดิ้ลสโบรช์ ผมเป็นคนยิงประตูชัย 2-1 นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูกาลนั้นเลยล่ะ

“ตั้งแต่จุดนั้นเป็นต้นมา ผมกลายเป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง โดยเฉพาะกับการล้มล้างความคิดเดิมที่ว่า ผมเองไม่เหมาะกับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

ผลสุดท้าย … จากคนที่เคยคิดว่าตัวเองดีไม่พอที่จะลงเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ กลับนำพาพลพรรค “จิ้งจอกสยาม” เลื่อนชั้น และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 

แม้ว่าเพื่อนร่วมทีมหลายคนต่างพากันย้ายทีมออกไปสู่สโมสรที่ใหญ่กว่า ทว่าเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม เพราะนี่คือสโมสรที่เชื่อมั่นในตัวเขาตลอดมา แม้แต่ในวันที่เขากังขาในตัวเอง 

คลิกเลย >>> UFABETWINS
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล

Bookmark the permalink.